
โกริกันชา เป็นวิหารที่สำคัญที่สุดในอาณาจักรอินคา ตั้งอยู่ในเมืองกุสโก ประเทศเปรู โดยคำว่า Qorikancha เป็นภาษาเกชัว หมายถึง สวนสีทอง แต่ชื่อจริงๆของที่นี่คือ Intikancha หรือ Intiwasi เนื่องจากสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเข้า Inti


การก่อสร้างโกริกันชา สร้างขึ้นแบบ ashlar โดยใช้หินทรงลูกบาศก์ที่มีขนาดเท่าๆกันวางซ้อนทับกันขึ้นไป ชาวอินคาจะไม่ใช้หินที่ไม่สมบูรณ์หรือแตกร้าวเด็ดขาด ที่นี่เป็นสถานที่รวบรวมกำลังรบที่สำคัญของอินคา

ต่อมาปาชากูตี (Pachacuti) กษัตริย์อินคาคนที่ 9 ได้สร้างวิหารพระอาทิตย์ขึ้นใหม่ ให้มีความใหญ่โตและเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์กว่าเดิม เพิ่มแผ่นทองคำเข้าไป และนำร่างของกษัตริย์อินคามาไว้ที่นี่ในโลงทองคำ โดยใส่หน้ากาก สวมเครื่องหัว สร้อยข้อมือ คฑาทองคำ และเหรียญรางวัล ส่วนกำแพงก็ฉาบด้วยทองคำ ในสวนก็วางรูปปั้นทองคำไว้ด้วย

หลังจากนั้นสเปนเข้ายึดครองเปรู ก็ได้สร้างโบสถ์ซานโต โดมิงโก (Santo Domingo) ขึ้นที่โกริกันชา เปลี่ยนโครงสร้างงานหินของอินคาเป็นอาคารโคโลเนียล ต่อมาเกิดแผ่นดินไหวขึ้น โบสถ์ได้รับความเสียหายหายส่วน แต่โครงสร้างที่เป็นงานหินของอินคายังคงอยู่ได้
ปัจจุบันใกล้ๆกันมีพิพิธภัณฑ์โบราณคดีใต้ดินอยู่ ซึ่งเก็บรักษามัมมี่ สิ่งทอ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากโกริกันชา


Photograph :
Comments