
รูปปั้นหินโมไอสุดลึกลับ ตั้งกระจายอยู่บนเกาะอีสเตอร์ ประเทศชิลี ซึ่งรูปปั้นหินโมไอเป็นรูปมนุษย์ครึ่งตัว มีมากเกือบ 1,000 ชิ้น ด้วยความอะเมซิ่งและลึกลับจึงทำให้เกาะแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ตั้งแต่ปี 1995


ในศตวรรษที่ 15 บนเกาะแห่งนี้มี 2 ชนเผ่าอาศัยอยู่ คือ Otu 'Itu และ Tu'u ทั้ง 2 ชนเผ่าต่อสู้กันเพื่อครอบครองเกาะนี้ มีการทำลายป่าและรูปปั้นหิน ต่อมาในปี 1722 นักสำรวจชาวดัตช์พบเกาะนี้เข้า ซึ่งวันนั้นเป็นวันอีสเตอร์ เขาจึงตั้งชื่อเกาะนี้ว่า เกาะอีสเตอร์ หลังจากนั้นก็มีการเดินเรือแล้วพบเกาะนี้อีกหลายครั้ง ซึ่งพบว่ามีประชากรลดลงไปมาก

ในปี 1862 รัฐบาลเปรูต้อนชาวเมืองบนเกาะไปเป็นทาสบนแผ่นดินใหญ่ แล้วหลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็มีการปล่อยตัวทาสกลับมาที่เกาะ 15 คน พวกเขานำเชื้อไข้ทรพิษกลับเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นโรคจากยุโรป ชาวเผ่าบนเกาะไม่มีภูมิคุ้มกันโรคนี้ ทำให้ติดโรคและล้มตายไป จนมีประชากรลดลงไปมาก ในตอนนั้นไม่มีการบันทึกเรื่องราวไว้ มีแค่การเล่าเรื่องปากต่อปาก ทั้งสิ่งที่เหลืออยู่บนเกาะ สัญลักษณ์ต่างๆ และที่มาของชนเผ่าพื้นเมืองก็ยังเป็นปริศนาอยู่

จากโครงการ Easter Island Statue Project นักโบราณคดีได้ขุดลงไปเพื่อศึกษาส่วนลำตัวเพิ่มเติม พบว่ามีการแกะสลักวงแหวนและผ้าคาดเอวไว้ ซึ่งก็ยังไม่รู้ความหมายที่แท้จริง


Kommentare